คืนพิรุณพร่ำรัก - นิยาย คืนพิรุณพร่ำรัก : Dek-D.com - Writer
×
NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ
  • มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง
  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด

    คืนพิรุณพร่ำรัก

    ผู้เข้าชมรวม

    4,965

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    63

    ผู้เข้าชมรวม


    4.96K

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    37
    หมวด :  รักดราม่า
    จำนวนตอน :  84 ตอน (จบแล้ว)
    อัปเดตล่าสุด :  5 ม.ค. 67 / 21:30 น.
    คำเตือนเนื้อหา NC

    มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ, มีการบรรยายเนื้อหาที่เกี่ยวกับความรุนแรงสูง, มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    คืนพิรุณพร่ำรัก

    คำโปรย

    ต่อให้หัวใจรักมากแค่ไหน แต่สุดท้ายก็สู่เงินทองและอำนาจไม่ได้จริงหรือ

    ทว่า การกลับมาเจอกันครานี้ เขาจะยอมเป็นคนเห็นแก่ตัวและตัวร้ายเพื่อให้ได้เธอกลับคืนมา

    สปอย

    เหรินเจียมองจัสมินด้วยสายตาผิดหวังแกมเสียใจก่อนจะเลื่อนสายตาลงมาที่เด็กหญิงตัวน้อยวัยสี่ขวบที่กำลังยืนมองมาที่ชายหนุ่มด้วยสายตาสงสัยใคร่รู้ ซึ่งกำลังจับมือผู้เป็นมารดาเอาไว้ไม่ยอมปล่อย

                   เขาไม่คิดเลยว่าตลอดเวลาที่ห่างหายกันไปเธอจะมีครอบครัวใหม่ ทั้งที่เมื่อสามปีก่อนสาวเจ้ายังมาปรากฏตัวให้เขาเห็นด้วยการไปรับปากโลแกนเพื่อจะช่วยแลกกับการที่โลแกนจะช่วยให้เขาหายไปจากชีวิตของเธอ กับเวลาห้าปีก่อนที่ผ่านมาเธอกับเขาเลิกรากันไปด้วยความไม่เข้าใจ กระทั่งไปรู้ว่าเป็นเพราะพี่ชายของตนไปกดดันจัสมินจนหญิงสาวต้องมาบอกเลิกกันแบบนั้น แต่ใช่ว่าเขาจะยอมให้เรื่องไปแล้วกันไปเสียเมื่อไร กว่าสองปีที่เขาออกตามหาเธอเพื่อจะปรับความเข้าใจแต่ไม่คิดเลยว่าเธอจะหนีเขาไปอีกกับข่าวล่าสุดที่ได้ยินว่าเธอเข้าโรงพยาบาลในวันเดียวกับที่จะพานิรดาไปที่สุสานของหลานสาวอย่างหลิงหลิง

                   แต่ไม่คิดเลยว่าสามปีต่อมาจะเจอกับเธอและบุตรสาวตัวน้อย

                   ผู้หญิงตรงหน้าทำให้เขาหวนกลับไปในวันที่ได้เจอกันครั้งแรก ผู้หญิงที่ทำให้เขาตกหลุมรักได้อย่างไม่รู้ตัวกับความหวาดระแวงที่ฉายชัดออกมาจากดวงตาคู่นั้นท่ามกลางสายฝน

                   ท้องฟ้ายามราตรีที่เงียบสงบถูกปกคลุมไปด้วยหยาดฝนที่กระหน่ำตกลงมาจากผืนฟ้ากว้างอย่างไม่คิดจะหยุดให้หญิงสาวที่กำลังวิ่งหาที่หลบฝนตัวเปียกน้อยลง ดวงตาหวานคอยสอดส่ายหาที่หลบไปพลางวิ่งไปพลาง กระทั่งเจอกับหลังคาผ้าใบที่ยื่นออกมาจากหน้าร้านขายของที่ปิดไปแล้ว เท้าเล็กเร่งวิ่งไปทันทีเพื่อหวังจะหลบฝนก่อน

                   ทว่า ทันทีที่หญิงสาววิ่งเข้ามาหลบฝนใต้หลังคาผ้าใบก็ต้องตกใจเล็กน้อยเมื่ออีกฝั่งของซอยถนนมีชายร่างสูงดูสมาร์ตวิ่งเข้ามาหลบฝนพอดิบพอดี เธอหันไปมองเขาที่หันมามองเช่นเดียวกัน มือเรียวเล็กที่ยกขึ้นหวังจัดปัดน้ำฝนออกจากใบหน้าและผมชะงักค้าง

                   ‘ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก แค่จะหลบฝน’

                   เหรินเจียเอื้อนเอ่ยออกไปท่ามกลางเสียงฝนที่ดังขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเห็นสาวน้อยตรงหน้ามองมาด้วยสายตาไม่ไว้ใจแกมตกใจเล็ก พลันรอยยิ้มมุมปากยกขึ้นน้อยๆ ด้วยความขบขันอย่างเอ็นดูสาวเจ้าที่ยังคงยกมือค้างกลางอากาศ

                   ‘ไม่เมื่อยเหรอ’

                   เสียงเข้มละมุนเอ่ยขึ้นอีกครั้งพลางยกนิ้วชี้ขึ้นไปในทิศทางที่มือเรียวเล็กยังคงยกค้างเอาไว้ ดวงตาหวานกลอกตามเรียวนิ้วยาวของชายหนุ่มก่อนจะรีบลดแขนลงเมื่อเริ่มรู้สึกตัว พลางขยับออกห่างจนเกือบจะออกเขตหลังคาผ้าใบเมื่อสัมผัสได้ถึงละอองฝนจึงขยับกลับเข้ามา เป็นเหตุให้คนข้างๆ หลุดหัวเราะด้วยความเอ็นดู

                   ‘คุณหัวเราะอะไรคะ’

                   ‘ตลกคุณ’

                   ‘ตลกฉัน?’

                   จัสมินยกนิ้วชี้ขึ้นมาแล้วหันเข้าหาตัวเองเลิกคิ้วน้อยๆ มองไปที่ชายหนุ่มเชิงถาม และคำตอบที่ได้มาทำให้หญิงสาวทั้งเก้อเขินทั้งไม่สบอารมณ์น้อยๆ กับคำพูดของเขา

                   ‘อือ กลัวเป็นลูกหมาไปได้ เดี๋ยวจะกลายเป็นลูกหมาเปียกฝน’ เอ่ยเสียงกลั้วหัวเราะมองสาวเจ้า

                   ‘ซอยเปลี่ยว มืดก็มืดนะคะ วิ่งมาเจอคุณใครบ้างที่จะไม่กลัว’ เธอวาดมือไปตามซอยประกอบให้เขาได้รู้

                   ‘ผมเหรินเจีย’ เขายิ้มแล้วเอ่ยชื่อของตัวเองและตั้งใจที่จะไม่พูดถึงนามสกุล

                   เพราะน้อยนักที่ฮ่องกงจะมีครอบครัวใช้สกุลของเขา หากพูดออกไปก็คงได้รู้กันพอดีว่าเขานั้นเป็นใคร ที่นี่ตระกูลลีมีอำนาจและเป็นที่รู้จักไปทั่วเกาะ แน่นอนว่าคนธรรมดาทั่วไปก็รู้จักกับเขาในฐานะคนตระกูลลีและเจ้าของเพนท์เฮ้าส์สุดหรูชื่อดังอย่างมิราเคิลใจกลางเกาะฮ่องกงในเขตเซ็นทรัล ย่านคนรวยและนักธุรกิจที่มักจะอาศัยอยู่เพื่อความสะดวกสบาย

                   ‘คุณไม่ต้องบอกชื่อหรอกค่ะ ถ้าคุณเป็นคนไม่ดี ต่อให้บอกชื่อ ชื่อก็ปลอมอยู่ดี’ เธอตอบกลับอย่างมีมารยาทแต่ยังคงมีท่าทีตั้งท่าปฏิเสธที่จะทำความรู้จักกับชายหนุ่ม

                   ‘ผมเริ่มจะชอบคุณแล้วสิครับ’ เหรินเจียยกยิ้มละมุนชวนหวั่นไหวให้กับหญิงสาวที่เริ่มจะดึงความสนใจของเขาได้เป็นอย่างดี

                   สายตาคมยังคงจับจ้องวงหน้าสวยหวานอย่างแอบสำรวจไปกับจมูกนิดปากหน่อย ดวงตากลมโตน่ารัก ขนตายาวงอนอย่างพอดี จมูกโด่งเป็นสันสวยรับเข้ากับวงหน้าหวานของสาวเจ้า พลันอาการประหลาดก็ก่อเกิดขึ้นที่ก้อนเนื้อข้างในด้านซ้ายของหน้าอกแกร่ง แต่แล้วก็ต้องยิ้มหัวเราะออกมาเมื่อเธอขยับปากพ่นคำด่าออกมาก่อนจะก้าวเท้าออกแรงวิ่งไปท่ามกลางสายในที่โปรยปรายลงมาอยู่ร่ำๆ

                   น่ารักและน่าสนใจ…

                   ‘ไอ้โรคจิต!’

                   “แปลกดีนะที่ฉันลืมเธอไม่ได้ถึงห้าปี แต่เธอกลับลืมฉันแล้วไปมีครอบครัว ตลกดี” เขาแค่นหัวเราะออกมาน้อยๆ กับความน่าสมเพชของตัวเอง

                   “ขอโทษนะคะคุณเล็ก...คุณเหรินเจีย เรื่องของเราจบกันไปแล้ว” จัสมินกล่าวขอโทษเสียงอ่อนพลางดึงมือบุตรสาวตัวน้อยให้หลบอยู่ด้านหลังของตัวเอง

                   “นั่นมันเธอที่จบ แต่ฉันไม่ได้จบไปด้วย” เขาสวนกลับเสียงแข็งกร้าวจนเด็กหญิงตัวน้อยตกใจขยับเท้าหลบอยู่หลังมารดาทันที

                   “แต่เรื่องของเรามันเป็นไปไม่ได้ค่ะคุณเหรินเจีย ขอร้องนะคะ ปล่อยพวกเราไปเถอะค่ะ” จัสมินที่เคยกล้าหาญยามที่ต้องเผชิญหน้ากับเขา กลับเกิดความกลัวเมื่อในสถานการณ์ตอนนี้มีบุตรสาวตัวน้อยอยู่ด้วย

                   ความกลัวบางอย่างที่เธอไม่อยากให้ใครรู้มากไปกว่านี้

                   “ถ้าเป็นเพราะพี่ใหญ่ เรื่องมันผ่านมานานแล้วและตอนนี้ฉันมีสิทธิ์ที่จะตัดสินใจเอง” เขาเอ่ยเสียงเรียบ

                   “แต่ฉันมีลูกแล้วนะคะคุณเหรินเจีย มันเป็นไปไม่ได้แล้ว” จัสมินตัดสินใจพูดออกไปเพื่อให้เหรินเจียได้สติ

                   “...ฉัน” เหมือนชายหนุ่มจะได้สติ ชำเลืองสายตามองเด็กหญิงตัวน้อยอีกครั้งที่โผล่ใบหน้าออกมาเล็กน้อยมองที่เขา

                   “ขอร้องนะคะ ปล่อยพวกเราไปเถอะ อย่างน้อยคุณก็น่าจะสงสารเด็กที่กำลังกลัว ขอร้องนะคะ” เธอยังคงเว้าวอนขอร้องอีกฝ่ายพลางเบนสายตามองไปรอบๆ ที่มีคนของเขาล้อมเอาไว้ตามคำสั่ง

                   “ก่อนที่เธอจะไป ฉันถามเธอได้ไหม...แค่คำถามเดียว” เขาเอื้อนเอ่ยออกไปอย่างหมดแรงและหมดหวังด้วยความเจ็บปวดถึงที่สุด

                   “ได้สิคะ ฉันจะตอบตามความจริง” จัสมินมองหน้าเหรินเจียอย่างไม่คิดหลบสายตาเพื่อแสดงความจริงใจเป็นครั้งสุดท้ายกับการจะได้เจอกันอีก

                   “ตลอดเวลาที่เราคบกัน...เธอเคยรักฉันบางหรือเปล่า”

                   “รักสิคะ รักมากไม่ต่างกับคุณ แต่ฉันเองก็รู้ตัวว่ามันเป็นไปไม่ได้”

     

    แล้วพบกันเร็วๆ นี้

    © สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับเพิ่มเติม) พ.ศ. ๒๕๕๘

    ไม่อนุญาตให้สแกนหนังสือ หรือคัดลอกเนื้อหาส่วนหนึ่งส่วนใดเพื่อสร้างฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ทุกกรณี เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์อย่างเป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น

    หากพบเห็นผู้ที่สแกนหนังสือ หรือคัดลอกเนื้อหาจะทำการดำเนินคดีเท่านั้น ไม่มีพูดคุยไกล่เกลี่ยใดๆ ทั้งสิ้นนะคะ

    **สุดท้ายนี้ หากนักอ่านท่านใดไม่ชอบแนวนี้ สามารถเลื่อนผ่านไปได้นะค่า**

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนปิดการแสดงความคิดเห็น